หนุ่มวัย 34 ปี ในพื้นที่หมู่ที่ 17 ตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา หันหลังให้กับการทำงานประจำปลุกผักคื่นฉ่ายไฮโดรโปรนิค ซึ่งเป็นผักที่ค่อนข้างหายากในช่วงนี้ขายสร้างรายได้วันละกว่า 1,000 บาท โดยผักที่ปลูกนั้นจะเน้นใช้สารชีวภาพ จนเป็นที่ต้องการของตลาดและสามารถส่งขายจำหน่ายได้ทุกวัน
นายเจตน์กมล นาวา เกษตรกรหนุ่มในพื้นที่หมู่ที่ 17 ตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยานำผู้สื่อข่าวเข้าดูแปลงปลูกผักคื่นฉ่ายไฮดโดรโปรนิค ที่เขาปลุกไว้ประมาณ 4 แปลงปลูกในพื้นที่ 1 งาน หลังเขาหันหลังให้กับการทำงานประจำ ลูกจ้างบริษัทหลายแห่ง เนื่องจากถึงจุดอิ่มตัว โดยการหันมาทำการปลูกผักคื่นฉ่าย โดยระบบไฮโดรโปรนิค ที่ใช้ระบบน้ำวนเข้าทำการบริหารจัดการ จนสามารถทำให้ผักคื่นฉ่าย ที่ปลูกไว้โตได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม รวมทั้งเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งในแต่ละวันก็จะสามารถผลัดเปลี่ยนเก็บผลผลิตได้ทุกวันจนสามารถสร้างรายได้ให้เป็นอย่างดี
ด้วยนายเจตน์กมล เล่าว่า ตนเองได้ทำการปลุกผักดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาประมาณครึ่ง ปี หลังจากหันหลังให้กับชีวิตลูกจ้างบริษัทเอกชนหลายแห่ง โดยมาทำการลงทุนปลูกผักดังกล่าว โดยอาศัยความรู้ทุนเดิมที่มีอยู่ เนื่องจากตนเองได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และสัมผัสกับทางด้านการเกษตรมา จึงทำการปลูกผักคื่นฉ่ายแบบไฮโดรโปรนิค ที่เป็นพืชผักที่เป็นความต้องการของตลาด เนื่องจากค่อนข้างที่จะมีน้อยและหายาก ประกอบกับมีราคาที่สูง จากนั้นตนเองจึงทำการปลูกและผักคื่นฉ่ายก็มีการเจริญเติบโตที่ดีสวยงาม และเป็นที่ต้องการของตลาดซึ่งการปลูกนั้นจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนกับ 10 วัน จึงจะสามารถเก็บผลผลิตได้ โดยพื้นที่ประมาณ 1 งาน 4 แปลงปลูกนั้น สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 100-120 กิโลกรัม และเก็บผลผลิตต่อวันอย่างต่ำก็เฉลี่ยอยู่ที่ 5-10 กิโลกรัม ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าในตำบลและต่างพื้นที่เดินทางมารับซื้อและจะขายส่ง ในราคากิโลกรัมละ 70 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เป็นอย่างดี เนื่องจากผักคื่นฉ่ายของตนเองนั้นจะมีความสวยงาม และเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งต่อไปตนเองก็จะขยายเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้นเพราะปัจจุบันเป็นที่ต้องการของลูกค้าเนื่องจากผักมีความสวยงาม นายเจตน์กมล นาวา อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 38/1 หมู่ที่ 17 ตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โทรศัพท์ 081-9145135
.