สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ลามไม่หยุดคลัสเตอร์ชนเผ่าที่อำเภอปง รวมเพิ่ม 84 ราย 2 หมู่บ้าน นายอำเภอปงสั่งลุยเชิงรุกคาดเอาอยู่แน่นอน ขณะที่หมู่บ้านในพื้นที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเชียงคำ ที่ได้ถูกสั่งปิดเนื่องจากพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ถึงจำนวน 22 ราย โดยชาวบ้านได้รับประทานอาหารที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้บริจาค เกิดอาการท้องร่วงมากกว่า 20 ราย
วันที่12พฤศจิกายน2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 เกิดขึ้นอีกระลอกในพื้นที่อำเภอปง โดยพบว่าเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ของพี่น้องชนเผ่าม้งที่บ้าน สันติสุข ม.7 และบ้านขุนกำลัง ม.4 ต.ขุนควร อ.ปง จ.พะเยา โดยรวมทั้ง 2 หมู่บ้านขณะนี้อยู่ที่ 84 ราย ซึ่งจากการสอบถามและการไล่ตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่มาจากงานศพทั้งสิ้น ซึ่งขณะนี้จากจังหวัดได้ออกหนังสือประกาศให้ปิดทั้ง 2 หมู่บ้านแล้วในขณะนี้ โดยทางเจ้าหน้าที่การแพทย์ของ รพ.ปงออกทำการตรวจเชิงรุก(สว็อป)ทั้ง 2 หมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ภายในหมู่บ้านเหล่านี้เป็นชาวเขาเผ่าม้งทั้งสิ้น โดยการตรวจเชิงรุกนี้ได้ประสานผู้นำชุมชนและอสม.ภายในพื้นที่ให้ทำการควบคุมชาวบ้านเข้ามารับการตรวจทั้งหมดด้วย และในขณะนี้ยังพบว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ยังไม่มีใครฉีดวัคซีนป้องกันโควิดด้วย ทำให้การแพร่ระบาดนั้นลุกลามอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ตนอยากให้พี่น้องชาวม้งในพื้นที่ อ.ปง หันมาทำการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดกันให้เยอะ ๆ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อลุกลามจนทำให้ถึงขั้นเสียชีวิต
ขณะที่ชาวบ้าน ที่บ้านหล่ายพัฒนา ม.3 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้เกิดเหตุการณ์ชาวบ้านเกือบ 20 คน ท้องร่วงอย่างรุนแรงเพราะได้รับประทานอาหารเข้าไปบางรายถึงขั้นอาเจียนไม่หยุด ทั้งนี้ หลังจากที่ทางหมู่บ้านได้ถูกสั่งปิดเนื่องจากพบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิดภายในหมู่บ้านกว่า 22 รายนั้น ทำให้ขาดแคลนอาหารและสิ่งของต่าง ๆ เป็นจำนวนมากตนจึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของอาหารทั้ง 3 มื้อในช่วงที่ชาวบ้านกักตัวอยู่นี้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้พบว่าเป็นข้าวห่อเป็นชุดที่มีหน่วยงานราชการนำเข้ามามอบให้โดยที่ชาวบ้านไม่ได้ทันสังเกตความผิดปกติภายในห่อข้าว เมื่อทำการแจกจ่ายในช่วงเช้าชาวบ้านส่วนใหญ่ก็รับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อย แต่พอตกช่วงบ่ายชาวบ้านหลายคนเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ และอาเจียนออกมา บางรายอาเจียนไม่หยุดจนร่างกายอ่อนเพลีย ตนจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ของ รพ.เชียงคำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยสยามรวมใจจุดเชียงคำให้เข้ามารับตัวผู้ป่วยเหล่านี้เข้าทำการรักษาโดยเร็ว โดยชาวบ้านที่เข้ารับการรักษาภายใน รพ.นี้พบว่ามีอาการรุนแรงถึง 5 คนด้วยกันส่วนคนอื่น ๆ ที่อาการไม่รุนแรง