สาวขับรถเก๋งร้องสื่อกำลังเดินทางกลับบ้าน ถูกกระบะเฉี่ยวชนก่อนจะขับหลบหนีในความมืด ด้านตำรวจเผยวันนี้พิสูจน์หลักฐานมาเก็บรายละเอียดคาดจะได้รับคำตอบเร็ว ๆ นี้
เมื่อวันที่ 31 ส.ค.65 ช่วงเวลาประมาณ 20.40 น. ได้เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งถูกกระบะเฉี่ยวชนจนได้รับความเสียหายและได้ขับรถหนีต่ออย่างรวดเร็ว โดยบริเวณจุดเกิดเหตุอยู่ตรงเยื้อง ๆ หน้าร้านเชียงบานหมูกระทะ ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งภายในพื้นที่เกิดเหตุเป็นช่วงที่กำลังทำถนนสายเชียงคำ – เทิง ทำให้ไม่มีไฟกริ่งที่ส่องสว่างจึงเกิดความมืดในช่วงการเดินทาง ทั้งนี้พบว่ารถเก๋งสีดำดังกล่าวเป็นยี่ห้อ นิสสัน รุ่น อัลเมร่า หมายเลขทะเบียน กฉ – 1673 พะเยา ซึ่งเป็นของน.ส.จิราวรรณ แสงศรีจันทร์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านทุ่งควบ ม.2 ต.ทุ่งผาสุข อ.เชียงคำ จ.พะเยา ในสภาพกันชนท้ายหลุดทั้งแถบและบริเวณข้างรถตรงประตูหลังมีรอยเฉี่ยวชนและยังมีสีรถของคู่กรณีติดอยู่ ส่วนรถคู่กรณีนั้นทราบเบื้องต้นเป็นรถกระบะสีแดงไม่ทราบรุ่นด้านหลังกระบะติดคอกสูง ซึ่งไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
โดยน.ส.จิราวรรณ กล่าวว่า ในช่วงวันที่เกิดเหตุนั้นตนได้เดินทางไป จ.เชียงรายเพื่อซื้อของและหลังจากนั้นได้เดินทางกลับมาบ้าน พอมาถึงที่เกิดเหตุพบว่ามีรถกระบะคันดังกล่าวได้ขับเบียดมาหาตนได้ด้วยความเร็วและได้กระแทกรถตนอย่างแรงจนทำให้กันชนท้ายของรถตนนั้นหลุดทั้งแถบ และหลังจากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวไม่ได้จอดรถลงมาดูแต่กลับขับหนีไปอย่างรวดเร็วซึ่งตนเห็นด้วยว่ารถคันดังกล่าวได้ขับมุ่งหน้าไปยัง อ.ภูซางด้วย ทั้งนี้บริเวณที่เกิดเหตุนั้นเป็นช่วงที่กำลังก่อสร้างทำถนนทำให้ไฟกริ่งไม่มีด้วย และหลังจากที่เกิดเรื่องตนได้เข้าไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.อาคม แก้วหน่อ พนักงานสอบสวนร้อยเวร สภ.เชียงคำเพื่อที่จะได้ขอให้ทางตำรวจช่วยตามหารถคันดังกล่าวและคนขับมารับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย ทั้งนี้ตนอยากให้ผู้ขับรถคันดังกล่าวได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบที่เกิดขึ้นเพราะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอีกทั้งยังพอคุยกันได้อีกด้วย ซึ่งเวลานี้ตนก็ได้มอบหลักฐานให้กับทางพนักงานสอบสวนไม่ว่าจะเป็นกล้องหน้ารถ หรือกล้องตามจุดต่าง ๆ ที่ไปขอมาได้ไว้ให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อที่จะได้ควานหารถคันดังกล่าวและผู้ขับรถมารับผิดชอบในเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย
ด้าน ร.ต.อ.อาคม ได้กล่าวเสริมว่า เบื้องต้นจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้พบว่าผู้เสียหายได้ทำการขอกล้องวงจรปิดจากหลายที่จนเห็นว่าพบรถต้องสงสัย และตนได้นำรถคันนี้มาจอดไว้ที่ สภ.เชียงคำและได้ให้ทางเจ้าหน้าที่กองงานพิสูจน์หลักฐาน จ.พะเยาเข้ามาเก็บรายละเอียดทั้งเรื่องของสีรถที่เฉี่ยวชนและอื่น ๆ อีกหลายอย่างซึ่งหลังจากนี้จะต้องรอผลจากทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ว่าใช่รถต้องสงสัยที่เฉี่ยวชนของของผู้เสียหายหรือไม่ นอกจากนี้เจ้าของรถคันดังกล่าวได้ยืนกรานว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์นี้ซึ่งวันเกิดเหตุชายต้องสงสัยรายนี้ได้ขับรถไปที่เชียงรายแล้วขับกลับมาบ้านโดยไม่ได้ผ่านทางที่เกิดเหตุแม้แต่น้อย ซึ่งตนก็ได้บอกไปว่าให้หาหลักฐานมาหักล้างในเรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อจะได้พ้นผิดในครั้งนี้ด้วยและจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่ายอย่างแน่นอน