เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยา และสถานีตำรวจภูธรแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 เชียงใหม่ และเจ้าที่ไฟฟ้าจังหวัดพะเยาบุกจับและตรวจยึดอุปกรณ์ขุดเหรียญบิทคอยน์กว่า 100 ชุด จากผู้แอบลักลอบใช้ไฟฟ้า โดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สูญเสียรายได้มากกว่า 5 ล้านบาท โดยการลักลอบใช้ไฟฟ้าดังกล่าวได้ทำการนำตู้เซพเวอร์ขุดเหรียญบิทคอยน์ เข้าทำการติดตั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะติดตามขยายผลขบวนการดังกล่าวเพื่อดำเนินคดีต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองพะเยา พะเยา และสถานีตำรวจภูธรแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1จังหวัดเชียงใหม่ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดพะเยา ต้องเข้าทำการเข้าควบคุมตัว นายวิชัยศรีสุนทร ชาวบ้านเลขที่ 192 / 6 หมู่ 4 ตำบลบุญเกิด อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา และนายทวีทรัพย์ เขื่อนวัง บ้านเลขที่ 14 / 1 หมู่ 8 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์ขุดเหรียญบิทคอยน์ หลังเป็นผู้ดูแลอาคารห้องแถว เลขที่ 365 / 3 ถนนสายพะเยา-เชียงคำ ตำบลแม่ต่ำ อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา หลังพบว่ามีการแอบลักลอบใช้กระแสไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ขุดเหรียญบิทคอยน์ จำนวนกว่า 65 เครื่อง และใช้กระแสไฟฟ้าเฉลี่ยต่อเดือนกว่า 250,000 บาท ทำให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับความเสียหายรวม มากกว่า 2,500,000 บาท
โดยการจับกุมพบว่าอาคารหลังดังกล่าวเป็นตึกแถว 3 ชั้นครึ่ง ที่ผ่านมามีการแอบลักลอบใช้ไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตโดยประตูหน้าบ้านได้มีการปิดอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เจ้าหน้าที่พบว่าบริเวณอาคารดังกล่าวได้มีชายสองคน นั่งเฝ้าเครื่องขุดบิทคอยน์ดังกล่าวอยู่ ซึ่งเปิดใช้งานตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีและขยายผลถึงเครือข่ายดังกล่าวต่อไป
ในเวลาต่อมาวันเดียวกันเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 เชียงใหม่ และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดพะเยา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรแม่กา อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา เข้าทำการตรวจยึดอุปกรณ์ขุดเหรียญบิทคอยน์ดังกล่าวอีกจุดหนึ่ง คือบริเวณห้องแถวเลขที่ 188 / 4 หมู่ที่ 8 ตำบลแม่กา อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ซึ่งสามารถตรวจยึดเครื่องขุดเหรียญบิทคอยน์ จำนวน 36 เครื่อง โดยจุดดังกล่าวนั้นใช้กระแสไฟฟ้ามากกว่าจุดที่หนึ่งเนื่องจากเครื่องขุดบิทคอยน์ดังกล่าวนั้นมีการใช้กระแสไฟที่สูงกว่า โดยมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ฝ่ายมิเตอร์สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเขต 1 จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นจะได้เกิดขึ้นหลังจากที่มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงมีการร้องเรียนและแจ้งเบาะแสว่าสถานที่ดังกล่าวนั้น ได้มีการเปิดเครื่องเซิร์ฟเวอร์สำหรับขุดเหรียญบิทคอยน์ตลอดเวลา จนส่งผลให้เกิดความร้อนและเสียงดังตลอดเวลาเจ้าหน้าที่จึงได้มีการตรวจสอบและพบว่าในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีอยู่สองจุดซึ่งมีการตรวจยึดเครื่องขุดบิทคอยน์ดังกล่าวรวมกว่า 100 เครื่อง โดยจุดที่ที่หนึ่งใช้ไฟมากกว่า 40 กิโลวัตต์ จุดที่ 2 ใช้ไฟมากกว่า 60 กิโลวัตต์โดยรวมแล้วมูลค่าที่การไฟฟ้าได้รับความเสียหายทั้งในเรื่องของค่าไฟค่าปรับละเมิดร่วม 5 ล้านบาท