ปกครองภูซางพร้อมตำรวจ ปส.3 บุกยึกทรัพย์ในคดียาเสพติดได้ที่ดินกว่า 4 แปลง มูลค่ารวมกว่า 3 ล้านบาท ด้านภรรยาผู้ต้องหาไหวตัวทันทิ้งแม่และปู่ทวดเผชิญชะตากรรม
วันที่27 มิ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวริษฐ์ หอมนาน ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอภูซาง ได้มอบหมายให้ ส.อ.เกียรติศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนอำเภอภูซางที่ 10 (ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอภูซาง) บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูซาง ดำเนินการตรวจค้น บ้านเลขที่ 723 หมู่ที่ 1 ตำบลสบบง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา ตามหมายค้นศาลจังหวัดเชียงคำ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของนายโพธิกร (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดีขนยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 7,750,000 เม็ดซึ่งถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 พร้อมกับพวกจำนวน 6 คนภายในพื้นที่อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก โดยเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดทรัพย์ จำนวน 2 รายการ คือโฉนดที่ดิน จำนวน 1 ไร่ (มีสิ่งปลูกสร้างบ้าน 2 หลัง) และโฉนดที่ดิน จำนวน 4 ไร่ (มีสิ่งปลูกสร้างร้านค้าขายของชำ 1 หลัง) มูลค่ารวมเกือบ 3 ล้านบาท
ส.อ.เกียรติศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหลายหน่วยงานได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาในช่วงวันที่ 20 พ.ค.67 ที่ผ่านมานั้นก็ได้มีการขยายผลในเรื่องของเส้นทางการเงินและผู้ร่วมขบวนการ ทั้งนี้ก็ทราบมาว่าเงินบางส่วนได้มีการซื้อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งยานพาหนะจำนวนหนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้มีการวางแผนพร้อมทั้งขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดเชียงคำเพื่อเข้าตรวจสอบบ้านเป้าหมายพร้อมทำการยึดทรัพย์ทันที โดยการเดินทางเข้าพื้นที่ครั้งนี้สามารถตรวจยึดทรัพย์ได้จำนวน 2 รายการคือโฉนดที่ดิน จำนวน 1 ไร่ (มีสิ่งปลูกสร้างบ้าน 2 หลัง) และโฉนดที่ดิน จำนวน 4 ไร่ (มีสิ่งปลูกสร้างร้านค้าขายของชำ 1 หลัง) มลค่ารวมเกือบ 3 ล้านบาท
ส.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า นายโพธิกร 1 ในผู้ต้องหาเดิมเป็นชาว อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งได้มาพักอาศัยอยู่กับภรรยาในบ้านเลขที่ 723 ม.1 ต.สบบงและจากการตรวจสอบไม่พบภรรยานายโพธิกร โดยทราบจากน้องสาวภรรยาของผู้ต้องหาว่าพี่สาวได้ออกจากพื้นที่ไปแล้วประมาณ 3 วัน ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่สามารถเข้าตรวจสอบภายในบ้านและร้านค้าได้เนื่องจากปิดล็อกไว้ในช่วงก่อน และเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงก็พบเพียง แม่ยาย น้องชายรวมทั้งปู่ทวดอยู่กันในบ้านจึงได้แจ้งในเรื่องของการยึดทรัพย์แต่ยังสามารถอยู่บ้านหลังดังกล่าวได้จนกว่าจะมีการขายทอดตลาดกันต่อไป