นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยามอบนโยบายการดำเนินงานป้องกันควบคุมวัณโรค ให้ความสำคัญการขยายนวัตกรรมการใช้โปรแกรมสารสนเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาและเร่งรัดการขึ้นทะเบียนผู้ป่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในชุมชนและสถานพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพะเยา จัดประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรควัณโรค ผ่านระบบ Zoom meeting เพื่อมอบนโยบายและขับเคลื่อนการดำเนินงานวัณโรค แก่เจ้าหน้าที่บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกระดับ
นายศุภชัย บุญอำพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา กล่าวว่า จังหวัดพะเยา มีผู้ป่วยวัณโรค ประมาณปีละ 600-700 รายต่อปี และเสียชีวิตในระหว่างการรักษา 17-20% และผู้ป่วยบางรายต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่าปกติเพราะค้นพบช้าและโรคลุกลาม ต้องขยายเวลาการรักษานานขึ้น เสี่ยงต่อวัณโรคดื้อยา จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในการตรวจคัดกรองเบื้องต้น โดยการถ่ายภาพรังสีทรวงอก โดยในปี 2564 จังหวัดพะเยา ได้นำเทคโนโลยีด้านข้อมูลมาใช้ทั้งจังหวัด เพื่อให้เข้าถึงตัวบุคคล กลุ่มเสี่ยงสำคัญ เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการค้นหา คัดกรองให้รวดเร็ว หากผลการคัดกรองและตรวจพบว่าป่วยจะขึ้นทะเบียนรักษา พร้อมจัดให้มีแพทย์ให้คำปรึกษาและทีมสหวิชาชีพ ให้กำลังใจ ติดตามการรักษา ทั้งในสถานพยาบาลและต่อเนื่องที่บ้าน
นายแพทย์ศุภชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานดังกล่าว เป็นไปตามมาตรการและกิจกรรมสำคัญเพื่อเป้าหมายการยุติวัณโรคในประเทศไทย ซึ่งมี 4 มาตรการ ได้แก่ มาตรการที่ 1 (Search) เร่งรัดค้นหา และขึ้นทะเบียนผู้ป่วยวัณโรค และวัณโรคดื้อยา โดยเน้นคัดกรองด้วยการถ่ายภาพรังสีทรวงอกประชากรกลุ่มเสี่ยงและเข้าถึงยาก เร่งรัดการขึ้นทะเบียน และรายงานผู้ป่วยทุกรายในสถานพยาบาลทุกแห่งทั้งในและนอกกระทรวงสาธารณสุข มาตรการที่ 2 (Detect) การตรวจวินิจฉัยที่รวดเร็วและได้ มาตรฐาน โดยตรวจวินิจฉัยด้วยวิธีที่รวดเร็วด้วยวิธีอณูชีววิทยา และตรวจทดสอบความไวต่อยาผู้ป่วยวัณโรคที่เสมหะพบเชื้อทุกราย มาตรการที่ 3 (Treat) การรักษาที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ดูแลรักษาผู้ป่วยวัณโรค วัณโรคดื้อยา วัณโรคดื้อยาหลายขนาน และวัณโรคที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวี ตามมาตรฐานการควบคุมวัณโรคของประเทศไทย และมาตรการที่ 4 (Prevent) การป้องกันวัณโรค โดยการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อวัณโรคในสถานพยาบาล ชุมชน และสถานที่แออัด รวมถึงการบริหารจัดการวัณโรคระยะแฝงด้วย
สำหรับประชาชนทุกคน การดูแล ป้องกันตนเอง โดยให้ความสำคัญกับสุขวิทยาส่วนบุคคล โดยสวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า การล้างมือ และเว้นระยะห่าง จะทำให้ตนเองปลอดภัยจากโรคติดต่อทางเดินหายใจทุกชนิด