วุฒิสภาลงพื้นที่พบประชาชนที่จังหวัดพะเยา เป็นวันที่ 2

แชร์ข่าวพะเยา

      วุฒิสภา ลงพื้นที่พบประชาชนที่จังหวัดพะเยา เป็นวันที่ 2 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน การลงพื้นที่ครั้งที่ผ่านมา พร้อมรับฟังข้อมูลข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากส่วนราชการ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า การดำเนินงานด้านการพัฒนาจังหวัดที่สอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศประจำปีงบประมาณ 2564

      วันที่ 12 มีนาคม 2564 พลเอก สกนธ์ สัจจานิตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการ โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัด ภาคเหนือ (ตอนบน) คนที่ 1 พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ ที่ปรึกษาคณะกรรมการฯ นายณรงค์ อ่อนสอาด คณะกรรมการ และสมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดพะเยาเป็นวันที่สอง เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน การลงพื้นที่ครั้งที่ผ่านมา พร้อมรับฟังข้อมูลข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากส่วนราชการ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์หมอกควันและไฟป่า การดำเนินงานด้านการพัฒนาจังหวัดที่สอดคล้องกับการปฏิรูปประเทศประจำปีงบประมาณ 2564

      โดยวันนี้(12 มี.ค.)คณะฯ ได้เดินทางศึกษาแนวทางการเชื่อมโยงชุมชนกับเขตอนุรักษ์โบราณสถานบ้านร่องไฮชุมชนบ้านร่องไฮ ตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมืองพะเยา เพื่อพบปะประชาชนในชุมชนบ้านร่องไฮ และรับฟังข้อมูลข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาชุมชน ทางด้านเศรษฐกิจสังคม และการท่องเที่ยวจากนั้นได้เดินทางไปมูลนิธิพะเยาเพื่อพัฒนาสภาลมหายใจพะเยา ชุมชนบ้านสันป่าม่วง ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมืองพะเยา พบปะประชาชนในชุมชนบ้านสันป่าม่วง พร้อมทั้งรับฟังข้อมูลข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเรื่องที่ดิน การบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของชุมชนบริเวณรอบๆกว๊านพะเยา เพื่อให้ เพื่อให้เกิดความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนตามกรอบยุทธศาสตร์ของชาติ

     ด้าน พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ ที่ปรึกษา คณะกรรมการ โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัด ภาคเหนือ (ตอนบน) กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควัน และไฟป่าในเขตภาพเหนือตนบน ระบุว่า ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันปี 2564 สถานการณ์ค่อนข้างรุนแรง จังหวัดทางภาคเหนือติดอันดับหนึ่งที่มีค่า PM 2.5 สูงที่สุดในโลกอยู่หลายวัน โดยขณะนี้มีการเสนอร่าง “กฎหมายสะอาดเพื่อประชาชน” โดยได้เสนอไปยังประธานรัฐสภา และเนื่องจากเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับการเงิน จึงได้นำเสนอ ไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณารับรองแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญ ซึ่งกฎหมายนี้จะมีการบูรณาการทุกภาคส่วนในการดำเนินการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า โดยที่ล่าสุดมีผลการศึกษาทางวิชาการพบว่า จังหวัดพะเยามีมลพิษทางอากาศทำให้ประชาชนมีอายุไขเฉลี่ยลดลง 4.72 ปี ซึ่งมากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นหน่วยงานทุกภาคส่วนต้องบูรณาการอย่างจริงจัง จึงจะทำให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมได้


แชร์ข่าวพะเยา