สาธารณสุขจังหวัดพะเยา  เผยแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19

แชร์ข่าวพะเยา

สาธารณสุขจังหวัดพะเยา  เผยแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 กระตุ้นในกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-17 ปี ที่มีสุขภาพแข็งแรง ผ่านระบบการศึกษา  เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน จะเริ่มฉีดช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2565 ส่วนเด็กที่มี โรคประจำตัว 7 กลุ่ม ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนผ่านระบบสถานพยาบาล

    นายแพทย์ศุภชัย  บุญอำพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพะเยา กล่าวว่า จากมติการประชุมคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค  ครั้งที่ 2/2565 แนะนำให้เด็กอายุ 12-17 ปี ที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 ครบ 2 เข็มแล้ว  ให้เข้ารับวัคซีนไฟเซอร์ เป็นเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3  และต้องมีระยะห่างจากเข็มที่สอง 4-6 เดือนขึ้นไป  เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน แม้ว่าเด็กที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ไม่มีอาการหรืออาการน้อย แต่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน โดยเฉพาะเด็กที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่ม  เพื่อป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิต

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ไฟเซอร์ ในกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-17 ปี (ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1- 6)  ที่มีสุขภาพแข็งแรง เป็นการฉีดเข็มกระตุ้นผ่านระบบการศึกษา  เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดเทอมภาคการศึกษา ที่ 1/2565 โดยบูรณาการความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ   เนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์กระตุ้นภูมิคุ้มกันดี  มีผลข้างเคียงน้อยลง และเป็นวัคซีนที่พร้อมใช้งานได้ทันทีไม่ต้องผสมน้ำเกลือก่อนฉีด  สามารถเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ได้นานขึ้นเป็น 10 สัปดาห์ หลังเปิดใช้แล้วต้องฉีดให้หมดภายใน 2-6 ชั่วโมง ซึ่งสูตรการฉีดในกลุ่มเด็กอายุ 12-17 ปี  จะฉีดคนละ 15 ไมโครกรัมต่อโดส  โดยจะเริ่มฉีดพร้อมกันทั่วประเทศช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2565

      นายแพทย์ศุภชัย  กล่าวเพิ่มเติมว่า  สำหรับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ  ได้แก่ กลุ่มนักเรียนนอกระบบการศึกษา  เช่น Home School การจัดการเรียนการสอนที่บ้าน กลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค 1.โรคอ้วน 2.โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง  3.หัวใจและหลอดเลือด  4.ไตวายเรื้อรัง  5.มะเร็งและภูมิคุ้มกันต่ำ  6.เบาหวาน  7.โรคพันธุกรรม  รวมทั้งกลุ่มอาการดาวน์  เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทรุนแรง   และเด็กที่มีพัฒนาการช้า ให้เข้ารับการบริการฉีดวัคซีนผ่านระบบสถานพยาบาล

ทั้งนี้  หากผู้เข้ารับวัคซีนกลุ่มเป้าหมายอายุ 12-17 ปี  มีเงื่อนไขเฉพาะหรือมีข้อจำกัดในการรับวัคซีนตามแนวทางการฉีดวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำผ่านระบบการศึกษา ให้กลุ่มดังกล่าวเข้ารับวัคซีนผ่านระบบสถานพยาบาล  โดยให้หน่วยบริการฉีดสามารถพิจารณาฉีดวัคซีนตามดุลพินิจของแพทย์ ภายใต้หลักวิชาการ คำแนะนำจากบริษัทผู้ผลิต ความสมัครใจของผู้ปกครองและผู้รับวัคซีน


แชร์ข่าวพะเยา