ชาวบ้าน บ้านถ้ำเรียกร้องที่ทำการกองทุนคืนหลังถูกยึดทรัพย์

แชร์ข่าวพะเยา

    ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านถ้ำอำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา รวมตัวเรียกร้องที่ทำการกองทุนของหมู่บ้านคืนหลังศาลสั่งให้มีการยึดทรัพย์ ซึ่งเป็นที่ดินและอาคารของหมู่บ้าน ที่เริ่มดำเนินการรวบรวมทุนมาตั้งแต่ปี 2535 ทำการจัดซื้อที่ดินและสร้างสิ่งปลูกสร้าง

     ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านถ้ำอำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ต้องรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน หลังได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากศาลมีคำสั่งให้ยึดที่ทำการของกองทุนของหมู่บ้าน ที่ชาวบ้านได้ร่วมก่อตั้งกันมาตั้งแต่ปี 2535 จนถึงปัจจุบันและมีการจัดซื้อที่ดินโดยการรวบรวม เงินของกลุ่มกองทุนของหมู่บ้านจนสามารถจัดซื้อที่ดินและอาคารสิ่งปลูกสร้างเป็นที่ถาวรแต่ล่าสุดทางกรรมการหมู่บ้านที่มีรายชื่ออยู่ จำนวนอีก 3 รายได้รับคำสั่งศาลให้มีการยึดทรัพย์ บริเวณที่ทำการกองทุนดังกล่าวของหมู่บ้านเนื่องจากสาเหตุที่มีกรรมการ 1 ใน 4 ของคณะกรรมการที่เป็นตัวแทนถือสินครองที่ดินของหมู่บ้านดังกล่าว ได้ไปทำทุรกรรมทางการเงินกับกองทุน กองทุนองค์กรพัฒนาชุมชนหรือ กอช เพื่อทำธุรกิจโรงงานผลิตนม ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย แต่ต่อมาธุรกิจประสบกับภาวะขาดทุน จนเป็นเหตุให้กรรมการคนดังกล่าวถูกศาลสั่งฟ้องล้มละลายและมีการสืบทรัพย์ พบว่าที่ดินผืนดังกล่าวซึ่งเป็นของหมู่บ้านได้มีรายชื่อของกรรมการหนึ่งคน ซึ่งมีรายชื่อถือกรรมสิทธิ์จึงถูกศาลสั่งยึดทรัพย์ ดังกล่าว ซึ่งถือว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับหมู่บ้านเป็นอย่างมากจึงเรียกร้องขอความเป็นธรรมกับกรณีดังกล่าว

     นายทวี หวานเสียง ตัวแทนคณะกรรมการหมู่บ้าน ระบุว่า ศูนย์ของหมู่บ้านตนเองดังกล่าวนั้นได้เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 โดยชาวบ้านได้ร่วมมือกันในการที่จะร่วมทำการออมทรัพย์ จากนั้นในปี 2541 ได้มีการรวบรวมเงินทุนทำการจัดซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการก็ได้มีการตั้งตัวแทนคณะกรรมการ 4 คนเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่ต่อมาในปี พ.ศ. 2550 ได้มีคณะกรรมการ 1 คน ที่เป็นตัวแทนถือครองที่ดินของหมู่บ้านได้ไปทำทุรกรรมการเงินกับทาง กองทุนองค์กรพัฒนาชุมชน โดยไปลงทุนทำโรงงานผลิตนม ที่จังหวัดเชียงราย แต่ต่อมากิจการ ประสบกับภาวะขาดทุน จึงทำให้ถูกฟ้องและมีการสืบทรัพย์ พบว่าบุคคลดังกล่าวได้มีรายชื่อถือกรรมสิทธิ์ที่ดินของหมู่บ้าน ทางศาลพิจารณาทำการยึดทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งเป็นของหมู่บ้านทางคณะกรรมการรวมทั้งชาวบ้านที่เป็นสมาชิกได้ทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือได้ จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่ดูแลแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนเข้าทำการช่วยเหลือ เพราะหากยึด ที่ดินที่ทำการดังกล่าวไป ชาวบ้านที่ได้ร่วมไม้ร่วมมือกันก่อสร้างมาก็จะได้รับความเดือดร้อน ซึ่งขณะนี้ทางกลุ่มและสมาชิกได้ให้ทนาย ขอกันส่วนในการยึดพื้นที่และทรัพย์สินดังกล่าวเนื่องจากชื่อผู้ถือครองถึง4 ราย และลำพังของหมู่บ้านเองนั้นหากจะซื้อคืนกับกรมบังคับคดี ชาวบ้านก็ไม่มีเงินหรือไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนมาซื้อคืน

     ขณะที่นางพิมพ์ลัดดา รัตนกุล  ชาวบ้านอีกคน ระบุว่า ชาวบ้านขณะนี้ได้รับความเดือดร้อน หากยึดที่ทำการดังกล่าวนั้น เนื่องจากเป็นของชาวบ้านที่รวบรวมเงินและก่อตั้งกันมาหลาย 10 ปี จึงอยากเรียกร้องขอที่ทำการดังกล่าวซึ่งเป็นของหมู่บ้านจริงๆคืน

    


แชร์ข่าวพะเยา