จังหวัดพะเยา เปิดหมู่บ้านทำมาค้าขาย “วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมล้านนาสันปูเลย” เดินหน้ามุ่งพัฒนาท้องถิ่น สร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก
วันที่29พฤศจิกายน2564นายพินิจ แก้วจิตคงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา เป็นประธานเปิดหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ “วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมล้านนาสันปูเลย” ณ วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมล้านนาสันปูเลย ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ภายใต้โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ โดยกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้เข้ามาช่วยส่งเสริมพัฒนาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งเปิดช่องทางการขายเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการแช่งขัน เป็นการสร้างรายได้เพิ่มให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานราก โดยการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านงานออกแบบที่ร่วมสมัย เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกช่วงวัย โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานในครั้งนี้
นายพินิจ แก้วจิตคงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศโดยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เกิดความเข้มแข็ง ด้วยการสร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชนโครงการหมู่บ้านทำมาค้าขาย โดยกรมการค้าภายใน ได้เล็งเห็นศักยภาพและความเข้มแข็งของ “วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรม ล้านนาสันปูเลย” จึงได้เข้ามาช่วยส่งเสริมและพัฒนาให้เข้าร่วมโครงการหมู่บ้านทำมาค้าขายแห่งใหม่ โดยการยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ ด้วยการพัฒนาคอลเลคชั่นสินค้าใหม่ให้โดดเด่นจากงานจักสานในท้องตลาด โดยได้เชิญผู้ก่อตั้งแบรนด์ “มองดอกไม้ บายบุษกร” มาออกแบบรูปทรงการตกแต่งด้วยงานถัก ปัก ให้มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง รวมทั้งออกแบบโลโก้ใหม่ เพื่อสร้างการจดจำในจุดเด่นงานจักสานของแบรนด์ SUNPULOEI PHAYAO THAILAND (สันปูเลยพะเยาไทยแลนด์) ติดอาวุธความคิดทางธุรกิจด้วยการอบรมการตลาตออฟไลน์และออนไลน์ การเจรจาการค้า การศึกษาดูงาน เชื่อมโยงช่องทางการตลาดกับตัวแทนจำหน่ายและหน่วยงานต่างๆ
ด้านนางศุภมิตร เต็งเผ่ พาณิชย์จังหวัดพะเยา กล่าวว่า จุดเด่นของเครื่องจักสานบ้านสันปูเลย คือรูปลักษณ์ที่สวยงาม และมีการปรับปรุงรูปแบบให้มีความร่วมสมัย เป็นการนำเสน่ห์ของเครื่องจักสานที่สื่อถึงคุณค่าของอดีตและภูมิปัญญาดั้งเดิม รวมถึงวิถีชีวิตชุมชนรอบกว๊านพะเยา ที่นำมาปรับใช้ในปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน ด้วยงานสองผสานที่นำวัสดุธรรมชาติจากผักตบชวาและไม้ไผ่มาจักสานร้อยรวมกัน ด้วยฝีมือที่ประณีต ละเอียด มีคุณภาพดีและทนทาน สร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาสินค้าชุมชนให้เป็นของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดพะเยา มุ่งเน้นการสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกส่วนใหญ่ที่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มสตรีในชุมชน ภายใต้แนวคิดของกลุ่มฯ คือ “กระเป๋า 1 ใบ สร้างรายได้ให้ 7 คน” เนื่องจากกระเป๋า 1 ใบ ประกอบด้วย 7 ขั้นตอนการผลิต จึงมีการแบ่งงานให้สมาชิกทำ 7 คนตามความถนัด เพื่อกระจายรายได้และสร้างความรักความสามัคคีในชุมชน
ทั้งนี้ โครงการหมู่บ้านทำมาค้าขาย เกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 มุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชน โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมีสมาชิกเป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกรกลุ่มแม่บ้าน เพื่อให้การประกอบธุรกิจมีประสิทธิภาพ สามารถดำรงธุรกิจของชุมชนได้อย่างมั่นคง ชุมซนเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง อยู่ดีกินดี มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถพึ่งพาตนเอง และลดการย้ายถิ่นฐานจากชุมชนเข้าสู่เมือง โดยมีวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมโครงการแล้วจำนวน 25 แห่ง