โชคดีเพราะแมวร้อง หวิดดับยกครัวหลังเพลิงไหม้โหมกระหน่ำเผาวอดทั้งคูหา ด้านกู้ภัยเผยคาดการอาจเป็นเพราะไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมาทาง ร.ต.อ.พสิษฐ์ เถาวัลยา พนักงานสอบสวนร้อยเวรสภ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้รับแจ้งทางวิทยุว่ามีเหตุเพลิงไหม้ในพื้นที่หน้า รพ.เชียงคำ จึงได้ลงพื้นที่พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจจุดเชียงคำ นอกจากนี้ได้ประสานขอรถน้ำไปยังหน่วยงาน อปท. อีก 4 แห่งเพื่อเข้าควบคุมเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เมื่อไปถึงทีเกิดเหตุนั้นพบว่าเป็นตึกแถวหลายคูหาซึ่งเป็นแบบ 2 ชั้นเลขที่ 463/15 ม.4 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา โดยเพลิงกำลังลุกไหม้อยู่คูหาตรงกลาง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงช่วยกันสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังคูหาอื่นซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ด้านเจ้าของคูหาทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.กัลยากร บุญรักษา อายุ 42 ปีและนายนพพร จันทอน อายุ 48 ปี รวมทั้งลูกชายอายุ 12 ปี ทั้งหมดหนีตายได้อย่างหวุดหวิดและปลอดภัยทั้งหมด
น.ส.กัลยากร ได้เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณสัก 5 ทุ่ม ตนและแฟนกำลังจะนอนหลับส่วนลูกหลับไปแล้ว จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแมวที่ตนเองเลี้ยงไว้ร้องหนักซึ่งตนเองแปลกใจมาก ๆเพราะปกติกลางคืนแมวที่เลี้ยงไว้จะไม่ค่อยร้อง ทั้งนี้ตนเองได้ลุกออกจากที่นอนและไปเปิดประตูเพื่อจะดูว่าทำไมแมวที่เลี้ยงไว้ถึงร้องเสียงดัง เมื่อเปิดประตูห้องออกไปตกต้องใจอย่างมากเพราะมีกลุ่มควันพวยพุ่งมาจากชั้นล่างของบ้านลอยเข้ามาในห้องทั้งนี้ตนรีบบอกแฟนของตัวเองรวมทั้งลูกชายให้รีบลุกทันที หลังจากนั้นได้เปิดประตูกระจกที่ระเบียงเพื่อกระโดดออกจากห้อง ซึ่งก็สามารถออกมาได้พร้อมทั้งกันทั้งบ้าน โดยหลังจากนั้นตนเองได้ให้แฟนพยายามทุบกระจกรถเพื่อที่จะย้ายออกจนแฟนคือ นายนพพรจันทอน ได้รับบาดเจ็บที่แขนเย็บ 7 เข็ม ส่วนตนกะว่าจะรีบวิ่งเข้าไปเพื่อปลดคัตเอาท์เบรคเกอร์สะพานไฟ แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เพราะเวลานั้นไฟได้ลุกไหม้อย่างหนักแล้วตนได้เพียงยืนมองด้วยความเสียดายก่อนที่จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือในเวลาต่อมา
ด้านนายสราวุธ กาติ๊บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ให้สัมภาษณ์ว่า จุดเกิดเหตุนั้นพบว่าชั้นล่างส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์การแพทย์ที่ทางเจ้าของบ้านได้นำมาจำหน่าย ซึ่งก็เป็นเชื้อเพลงอย่างดีทำให้ไฟไหม้โหมอย่างหนักด้วย โดยนอกจากอุปกรณ์การแพทย์จะเสียหายไปหมดแล้วยังมีรถจักรยานยนต์ 1 คัน รถจักรยานอีก 1 คัน อุปกรณ์เครื่องมือช่างและอื่น ๆได้เสียหายกันทั้งหมด แต่โชคยังดีที่ครอบครัวนี้ไม่มีใครเสียชีวิตรวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทุกคนสามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกไหม้ไปยังคูหาข้างเคียงด้วยเช่นกัน ทั้งนี้เห็นว่าเช้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐานจะเข้าพื้นที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้ง ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้คาดว่าหน้าจะเป็นไฟฟ้าลัดวงจร