สุดอนาถเด็กชายวัย 11 ปีในพื้นที่ตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา มีฐานะยากจนอาศัยอยู่กับแม่และน้องสาวอายุ 3 ขวบ ในบ้านที่มีสภาพเป็นเพลิงเล็กๆไม่มีไฟฟ้าน้ำประปาใช้ และหากวันไดที่แม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ตนเองจะต้องหยุดเรียนเพื่อเลี้ยงน้องวัยสาววัย 3 ขวบแทนแม่
วันที่18พฤศจิกายน2564พระครูสุนทรวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมศีล ตำบลบ้านถ้ำ พร้อมกับนายศิริรับ เลิศคำนายกเทศมนตรีตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ นำสิ่งของ ซึ่งเป็นของใช้ ข้าวสารอาหารแห้งเดินทางเข้ามอบให้กับครอบครัวของเด็กชายสุรชัย ขำมณี อายุ 11 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา หลังจากทราบข่าวว่ามีฐานะยากจนและไม่มีผู้ดูแล ซึ่งขณะที่เดินทางเข้ามอบสิ่งของก็พบบ้านที่มีสภาพเป็นเพิงเล็กๆที่ปลูกไว้ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ของเพื่อนบ้านที่ให้อาศัยอยู่ และพบเด็กชายสุรชัย ที่กำลังเลี้ยงน้องผู้หญิงที่มีอายุเพียง 3 ขวบ อยู่ภายหน้าบริเวณบ้านโดยจากการสังเกตบริเวณบ้านพบว่าเป็นเพลิงเล็กๆที่มีเพียงห้องเดียว ที่มีสภาพสุดโทรมโดยพื้นที่นอนกับพื้นที่บริเวณโรงครัวก็จะอยู่ภายในห้องที่มีขนาดเพียง 3 ×2 เมตร และไม่มีน้ำประปาใช้ ไฟฟ้าก็อาศัยไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ที่สามารถใช้ได้เพียงไฟหลอดเดียว โดยเด็กชายสุรชัย เล่าว่า ตนเองอาศัยอยู่บ้านหลังนี้จำนวน 3 คน ซึ่งมีแม่อายุประมาณ 36 ปี และตนเองรวมทั้งน้องสาววัย 3 ปี อีกหนึ่งคน ซึ่งขณะนี้ตนเอง อายุ 11 ปีและเรียนอยู่ในระดับ ป.3 ของโรงเรียนปางงุ้น เป็นโรงเรียนในตำบล ที่ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร โดยในวันนี้ตนเองไม่สามารถที่จะไปเรียนหนังสือได้ เนื่องจากต้องดูแลน้อง เนื่องจากแม่ออกไปทำงานรับจ้างในต่างพื้นที่ ตนเองจึงต้องหยุดเรียนเพื่อที่จะดูแลน้อง หากแม่ออกไปทำงานรับจ้าง
ขณะที่นายศิริรับ เลิศคำ นายกเทศมนตรีตำบลหนองหล่ม อำเภอดอกคำใต้ ระบุว่า ครอบครัวดังกล่าวนั้นอาศัยอยู่กันจำนวน 3 คนและแม่ต้องออกไปรับจ้างเพื่อหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งอยู่ในสภาพที่ขัดสนมาก และเด็กชายสุรชัยคนดังกล่าวนั้น ซึ่งหากแม่ออกไปรับจ้างทำงาน ซึ่งในช่วงนี้ในพื้นที่ต่างหมู่บ้านหรือหมู่บ้านใกล้เคียง ก็จะมีการหักข้าวโพด ซึ่งแม่จะต้องออกไปหาเงิน จึงต้องให้เด็กชายสุรชัย ดูแลน้องและไม่สามารถที่จะไปเรียนหนังสือกับเพื่อนๆได้ ซึ่งอายุ 11 ปีจริงๆแล้วต้องอยู่ในระดับประถมศึกษาปีที่ 5 แต่เนื่องจากหยุดเรียนบ่อยครั้ง จนต้องช้ำชั้น ถึง 2 ปี หลังจากที่ตนเองได้เข้ามาดูสภาพของครอบครัวดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นนั้นจะทำการช่วยเหลือโดยการเข้าทำการสร้างบ้าน ให้กับครอบครัวดังกล่าว แต่ก็ยังขาดปัจจัยและวัสดุอุปกรณ์หลายประการด้วยกัน จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ใจบุญได้เข้าช่วยเหลือจะเป็นการบริจาควัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างก็ได้
ขณะที่พระครูสุนทรวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมศีล ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอดอกคำใต้ ระบุว่า ในฐานะที่เป็นคณะสงฆ์ได้รับการประสานงานจากพระเดชพระคุณเจ้าคณะจังหวัดพะเยา พระราชปริยัติ ให้คณะสงฆ์อำเภอดอกคำใต้เข้าทำการสงเคราะห์ ในฐานะที่เป็นประธานฝ่ายสงเคราะห์ประชาชนของอำเภอดอกคำใต้ ซึ่งเท่าที่ผ่านมาเคยเข้าสงเคราะห์กับชาวบ้าน จำนวนมาก แต่ไม่รุนแรงเท่ากับรายนี้ ซึ่งพอมาประสบกับสภาพในวันนี้ทั้งสภาพความเป็นอยู่ของเด็กทั้งสอง และแม่ซึ่งทราบข่าวจากผู้นำหมู่บ้าน และนายกเทศมนตรีตำบลหนองหล่ม ผู้เป็นแม่มีอาชีพหาเช้ากินค่ำ บางวันก็ได้ไปรับจ้างบางวันก็ไม่ได้ไป หาเงินวันหนึ่งได้ประมาณ 100 กว่าบาท เพราะว่าในพื้นที่มีการรับจ้างหักข้าวโพด ด้วยจะหักเป็นกระสอบ ถ้าหากได้มากก็จะได้เงินมากตามไปด้วย แต่ในสภาพที่เป็นผู้หญิงหากได้จำนวนน้อยก็ได้เงินน้อยไปตามนั้น ตอนเย็นก็ต้องซื้อกับข้าวกับปลา มาเพื่อเลี้ยงลูก และในสภาพภายในบริเวณบ้าน ถ้วย จาน ช้อน ก็แทบจะไม่มีที่นอนก็อาศัยนอนอยู่ในพื้นที่เดียวกันกว้างเพียง 3 × 2 เมตร หรือประมาณ 6 ตารางวา แต่ที่อยู่ประกอบด้วยที่นอนโรงครัวก็อยู่ในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการอนุเคราะห์จากชาวบ้านที่มาช่วยกันทำให้ ไฟฟ้าก็ไม่มีใช้พอมาเยี่ยมแล้วเบื้องต้นจะหาทางช่วยเหลือลักษณะอย่างไร เนื่องจากเมื่อเห็นสภาพแล้วอยากจะเชิญชวนท่านที่พอมีจะกินพอมีจะเก็บ ช่วยเหลือสงเคราะห์ให้น้องได้มีโอกาสเรียนหนังสือ และมีชีวิตที่ดีขึ้น และอีกอย่างหนึ่งในสภาพของบ้านก็จะเป็นที่รกชัฎเนื่องจากใกล้พื้นที่ป่า และน้ำ สัตว์มีพิษต่างๆก็จะมีเป็นจำนวนมาก จากการดูสภาพแล้ว ท่านที่อยากจะสงเคราะห์ด้วยตนเองสามารถที่จะติดต่อมายังนายกเทศมนตรีตำบลหนองหล่มได้ หรือติดต่อมาที่ พระครูสุนทรวุฒิคุณ หรือจะบริจาคเป็นกระเบื้อง ปูน หิน ทรายเพื่อใช้ในการก่อสร้างบ้านเป็นเบื้องต้นในการสร้างบ้านให้กับครอบครัวนี้ หรือจะร่วมบริจาคที่บัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาดอกคำใต้ ชื่อบัญชี พระครูสุนทรวุฒิคุณ เพื่อ (กองทุนธัมมะจารี) เลขที่ 5530000859 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 093-230-6613
