หนุ่มพระเครื่องปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์ขายสร้างรายได้เสริม

แชร์ข่าวพะเยา

หนุ่มวัย 39 ปี ในพื้นที่บ้านสันขะเจ๊าะ หมู่ที่ 14 ต.ท่าวังทอง อ.เมือง จ.พะเยา ใช้เวลาว่างสร้างรายได้เสริมให้กับตนเองโดยการปลูกมะนาวแบบอินทรีย์ สองสายพันธุ์ คือ มะนาวแป้นรำไพและมะนาวแป้นพิจิตรโดยใช้พื้นที่หลังบ้านสามารถนำไปขายสร้างราย 300-400 บาทต่อวัน จนผลผลิตไม่พอกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละวัน

        นายอิทธิเดช ศิวากรดนัย นำผู้สื่อข่าวเข้าดูผลผลิตมะนาวที่เขาปลูกไว้ประมาณ 60 กว่าต้น ผสมผสานกับพืชผักในครัวเรือน ซึ่งเป็นพื้นที่บริเวณสวนหลังบ้านเนื้อที่ประมาณ 2 งานแต่ก่อน ที่เคยเป็นพื้นที่ว่างเปล่า โดยเขาได้หันมาปลูกมะนาวแป้นรำไพและมะนาวแป้นพิจิตรที่เพาะขยายพันธ์ด้วยตนเอง มาเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี โดยล่าสุดสามารถเก็บผลผลิตและสามารถจำหน่ายได้เป็นอย่างดี จนไม่เพียงพอกับความต้องการของการตลาด

      นายอิทธิเดช เล่าว่า ปัจจุบันตนเองทำธุรกิจเกี่ยวกับพระเครื่อง และได้ใช้เวลาว่างในการดูแลสวนมะนาวหลังบ้าน ซึ่งปัจจุบันครอบครัวขายน้ำผลไม้ปั่นและส้มตำ จึงได้ทำการหาซื้อพันธุ์มะนาวทั้งสองสายพันธุ์โดยเฉพาะแป้นรำไพหรือราชินีแห่งมะนาว ที่มีคุณลักษณะพิเศษ คือ เปลือกบาง มีกลิ่นหอม น้ำเยอะ จึงได้ทำการเพาะพันธุ์และนำมาปลูกเริ่มต้นที่ 50 ต้นโดยผลผลิตในช่วงนี้สามารถเก็บไปขายได้ทุกวัน โดยตนเองใช้วิธีการปลูกแบบชีวภาพ ปลูกในบ่อซีเมนต์เพราะสามารถให้มะนาวสามารถออกลูกนอกฤดูกาลได้ โดยเฉพาะช่วงเข้าฤดูแล้งจนถึงเดือนเมษายน ซึ่งมะนาวจะแพงถึงกิโลกรัมละ 80 บาท และการปลูกมะนาวปลูกในบ่อซีเมนต์ง่ายต่อการจัดการ เนื่องจากการปลูกในบ่อซีเมนต์สามารถปลูกให้มีขนาดทรงพุ่มเท่ากับการปลูกในแปลงดินได้ และง่ายต่อการงดน้ำ เพื่อบังคับให้ออกลูกนอกฤดู และมีรสชาติที่หอมอร่อย และสามารถนำไปขายได้ราคาดีกว่ามะนาวพันธุ์อื่นๆ

     โดยตนเองสามารถเก็บผลผลิตนำไปขายทั้งร้านอาหารทั่วไป และจะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อผลผลิตของตนเองถึงบ้าน ซึ่งลูกค้าต้องการซื้อเป็นจำนวนมากจนไม่พอขาย เนื่องจากมะนาวที่ตนเองปลูกนั้นจะใช้วิธีการปลูกแบบอินทรีย์จึงทำให้มีรสชาติที่ดีและเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งจะจำหน่ายในราคาส่งที่กิโลกรัมละ 50 บาท และหากขายปลีกก็จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 55 บาท ซึ่งในแต่ละวันนั้นสามารถเก็บผลผลิตได้ สามารถสร้างรายได้เสริมจากงานหลักถึงวันละ 300-400 บาท


แชร์ข่าวพะเยา