ตร.ภาค 5 เปิดปฏิบัติการเด็ดปีกป๋อลี เครือข่ายมือขนยาเสพติดรายใหญ่

แชร์ข่าวพะเยา

ตำรวจภูธรภาค 5 เปิดปฏิบัติการเด็ดปีกป๋อลี เครือข่ายมือขนยาเสพติดรายใหญ่สุดของภาคเหนือรวบผู้ต้องหาได้ 2 รายยึดทรัพย์นับร้อยล้านบาท

     วันที่8เมษายน2564 ตำรวจภูธรภาค 5 เปิดปฎิบัติการเด็ดปีกป๋อลี เครือข่ายมือขนยาเสพติดรายใหญ่ทางภาคเหนือ ซึ่งรับจ้างขนขนยาบ้ามาหลายปี ซึ่งเท่าที่ติดตามพฤติกรรมเครือข่ายนี้ขนยาบ้ามาแล้วนับร้อยล้านเม็ด จนมีฐานะร่ำรวยและใช้การซื้อขายวัวชนฟอกเงินบังหน้ารวบผูต้องหาได้ 2 รายยึดทรัพย์นับร้อยล้านบาท

     เช้ามืดวันนี้ กำลังตำรวจภูธรภาค 5 พร้อม ป.ป.ส.ภาค 5 กระจายกันบุกเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย ซึ่งเป็นบ้านพักหลังใหญ่ตกแต่งอย่างหรูหรา บนพื้นที่ 1 ไร่ ในตำบลหยวน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ซึ่งเป็นทรัพย์สินส่วนหนึ่งของนายบุญชัย แซ่มัว อายุ 55ปี หรือเสี่ย อ้วน วัวชน หรือในวงการขนยาเสพติดชายแดนไทย-ลาว เรียกว่า ป๋อลี โดยภายในบ้านพักไม่พบคนอาศัยแต่เปิดไฟในบ้านไว้และมีการล็อกกุญแจประตูหน้าบ้านทั้งด้านในและด้านนอกไว้ โดยภายในบ้านมีรถเก๋งฮอนด้าซิตตี้สีดำหมายเลขทะเบียน กท 2025 แพร่จอดทิ้งไว้ในโรงจอดรถ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจค้นเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมนอกจากนี้ยังเข้าตรวจค้นบ้านของเครือข่ายของป๋อลี ตามพื้นที่ชายแดน จับกุมนางธิติรัตน์ จรูญสกุลวงศ์ วัย 27ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ หลังพบเป็นผู้โอนเงินไปซื้อรถบรรทุก 10ล้อ ที่ใช้ขนยาบ้า 8ล้านเม็ด ซุกซ่อนในกระสอบถ่าน จากอำเภอภูซางจังหวัดพะเยา เมื่อ2เดือนก่อน และยังยึดวัวชนได้หลายสิบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่าเครือข่ายนี้ใช้ฟอกเงินที่ได้จากการขนยาเสพติด โดยเปิดสนามวัวชนและซื้อขายวัวชน คาดว่ามีวัวกว่า 1 ร้อยตัวที่กระจายฝากให้ชาวบ้านในหลายพื้นที่เลี้ยงไว้พันตำรวจเอกธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า ติดตามเครือข่ายมือขนยาเสพติดกลุ่มนี้มาหลายปีแล้ว หลังสกัดจับยาเสพติดล็อตใหญ่ที่ขนจากชายแดนเชียงรายและพะเยาหลายครั้ง รวมๆแล้ว พบว่าช่วง 3 ปีมานี้เครือข่ายของป๋อลีขนยาบ้าเฉพาะที่จับกุมได้นับร้อยล้านเม็ด จนมีฐานะร่ำรวย  คาดมีทรัพย์สินนับร้อยล้านบาท และสร้างอิทธิพลในพื้นที่อย่างมาก

ขณะที่ทาง พล.ต.ท ประจวบ วงค์สุข ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.วีระชน บุญทวี  ผบก.สส.ภ.5 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและยึดทรัพย์สิน ของป๋อลีที่มีการซุกซ่อนฟอกเงินอำพรางทั้งบ้านหรูและรีสอร์ท ที่กำลังก่อสร้าง รวมไปสนามวัวชน ในอำเภอเชียงคำ และฟาร์มวัวชน ในอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ยังเปิดปฏิบัติการบุกเข้าทลายเครือข่ายป๋อหลีพร้อมกันทั้ง 4 จังหวัดคือที่อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย  อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อำเภอพบพระ จังหวัดตาก และจังหวัดตราด แต่นายป๋อหลีไหวตัวทันและหลบหนีไปได้โดยพลตำรวจโทประจวบ วงค์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่าจากการเปิดยุทธการครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 4ในพื้นที่พะเยาและเชียงราย 2 ราย ราย  1 ในนั้นคือนายจื่อเหน่ง แซ่วาง อายุ 33 ปี ลูกเขย ที่ตำรวจจับกุมได้ที่รีสอร์ทที่กำลังก่อสร้างหมู่ 9 ตำบลสบบง อำเภอภูซาง

จากการสอบสวนนายจื่อเหน่ง อ้างว่าตนมีอาชีพซื้อขายวัวชนโดยรีสอร์ทดังกล่าวนั้นเป็นของตนเองก่อสร้างสร้างมา 3 ปีแล้วโดยเงินที่ใช้ก่อสร้างนั้นเป็นเงินจากญาติของตนที่ส่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกามาให้สร้างโดยส่งเงินมาให้ประมาณ 5 ปีแล้วแต่รีสอร์ท เพิ่งเริ่มสร้าง   แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อเพราะจากการสืบสวนนั้นเงินที่ใช้ก่อสร้างรีสอร์ททนั้นมีความเชื่อมโยงกับนายบุญชัย แซ่มัว หรือป๋อหลี  ที่หลบหนีไป ซึ่งจะสร้างไว้เพื่อเป็นการฟอกเงินส่วนคฤหาสน์หรูที่ทางเจ้าหน้าที่ยึดไว้นั้นก็เป็นสถานที่นัดพบ กลุ่มนักบินหรือมือขนยาเสพติดที่นายบุญชัยได้นัดมาพูดคุยและวางแผนเพื่อลำเลียงยาเสพติดที่ทุกครั้งก่อนจะมีการลำเลียงยาเสพติดนั้นต้องมีการวางแผนหาวิธีการในการลำเลียงโดยจ้างขนไทยเป็นคนขนเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัย โดยจะนำเงินที่ได้มาฟอกซื้อเป็นทรัพย์สินโดยใช้ชื่อบุคคลอื่นถือแทนแต่ทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจสอบขยายผลจนและอายัดทรัพย์สินไว้ทั้งหมดพร้อมกันนี้ก็จะขยายผลหาเครือข่ายที่ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีต่อไปโดยเฉพาะนายบุญชัย แซ่มัว หรือป๋อลีนั้นถือว่าเป็นเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่เป็นผู้รับจ้างลำเลียงยาเสพติดจากขบวนการยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านไปกระจายในพื้นที่ชั้นในและต่างประเทศ นายบุญชัยหรือป๋อลีก็ได้มารับจ้างลำเลียงยาเสพติดแทนจนเป็นที่ไว้วางใจของขบวนการยาเสพติดที่จะมาใช้บริการเพราะเชื่อใจในการลำเลียงยาว่าต้องถึงมือลูกค้าอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวนายบุญชัยมาดำเนินคดี


แชร์ข่าวพะเยา