หนุ่มใหญ่วัย 64 ปีในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยข้าวก่ำ อำเภอจุน จังหวัดพะเยา ปลูกองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ในพื้นที่ประมาณ 1 ไร่เศษ แต่ละปีสามารถสร้างรายได้ให้มากกว่า 100,000 บาท
นายดิเรก ลออเอี่ยม หนุ่มใหญ่วัย 64 ปี ในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยข้าวก่ำ อำเภอจุน จังหวัดพะเยาต้องเข้าทำการเก็บผลผลิตและดูแลผลผลิตองุ่น ซึ่งมีหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งสายพันธุ์มารู โทมาฮ็อก ไซมัส เพอร์เร็ค เรดพิชเรท แบคฟิตเรท รวมแล้วกว่า 80 ต้น ที่ขณะนี้ผลผลิตเริ่มที่จะสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว และมีผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ โดยหลังจากที่ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่จากการทำนาและปลูกแปลงดอกคอสมอส มาปลูกองุ่นเมื่อปีกว่าที่ผ่านมา จนสามารถสร้างรายได้ให้มากกว่า 3 เท่า ของการทำนา เนื่องจากองุ่นที่ปลูกไว้โดยลักษณะอินทรีย์ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนั้นในวันที่ 16 ธันวาคมนี้ จะเปิดสวนให้กับนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่ชื่นชอบสามารถที่จะเก็บผลผลิตได้ด้วยตนเอง ซึ่งขณะนี้มีผู้เดินทางเข้าจับจององุ่นของเขาแล้วเป็นจำนวนมาก
โดยนายดิเรก เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองใช้พื้นที่ดังกล่าวทำการทำนาข้าวส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งกันพื้นที่เป็นสวนดอกคอสมอส และคาเฟ่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาถ่ายรูปฟรีและไม่มีการเก็บเงิน ซึ่งสร้างความสนใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากแต่ในเรื่องของรายได้นั้นไม่มีเลย จึงได้มีการศึกษาค้นคว้าและฝึกอบรมโดยการนำองุ่นสายพันธุ์มารู นำมาปลูกไว้พบว่าสามารถให้ผลผลิตได้เป็นอย่างดีและสร้างรายได้ให้อย่างดียิ่ง โดยรอบแรกนั้นได้ผลผลิตองุ่น กว่า 400 กิโลกรัม โดยจำหน่ายที่กิโลกรัมละ 250 บาท จากนั้นเห็นว่าสามารถสร้างรายได้ให้เป็นอย่างดีได้ผลผลิตกว่า 400 กิโลกรัม จึงได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มขึ้นจนถึงขณะนี้ คาดว่าจะได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นกว่า 1 เท่าตัว โดยการดูแลรักษานั้นจะใช้ระยะเวลาประมาณ 120 วัน ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ในส่วนของการขายนั้นก็จะมีทั้งผู้สั่งจองรวมทั้งผู้ที่ทราบข่าวเดินทางมาหาซื้อกันอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของราคานั้นก็จะจำหน่ายอยู่ที่พันธ์มารู และโทมาฮอกกิโลกรัมละ 250 บาท สำหรับพันธ์ไซมัส เรดซิสเรทและแบคซีสเรท กิโลกรัมละ 300 บาท ซึ่งในรอบ 1 ปีนั้นสามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 2 ครั้ง โดยรายได้รวมแล้วมากกว่า 100,000 บาทต่อปี ซึ่งดีกว่าการทำนาถึง 3 เท่าตัว