สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่จ.พะเยา พบประชาชน

แชร์ข่าวพะเยา

สมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่พบประชาชนจังหวัดพะเยา วันแรก รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะของประชาชนในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  นำไปสู่การแก้ไขภายใต้บทบาทหน้าที่และอำนาจของวุฒิสภา

      วันพุธที่ 15 ธันวาคม  2564  พลเอก สกนธ์ สัจจานิตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัด ภาคเหนือ (ตอนบน) คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยพันตำรวจตรี ยงยุทธ  สาระสมบัติ  ที่ปรึกษาคณะกรรมการ นายจิรชัย  มูลทองโร่ย  กรรมการนายณรงค์ อ่อนสะอาด  นายมณเฑียร  บุญตัน  กรรมการและคณะสมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา  ในระหว่างวันที่  15-17  ธันวาคม2564 ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกได้เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา  ติดตามการดำเนินการต่าง ๆ ร่วมกับส่วนราชการ ในประเด็นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน การพัฒนากว๊านพะเยา และโครงการหนึ่งมหาวิทยาลัยหนึ่งตำบล ณ ห้องประชุมภูกามยาว ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดพะเยา   โดยมีนายชุติเดช  มีจันทร์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัด  หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมต้อยรับและรายงานผลการดำเนินงาน

      จากนั้นเดินทางไปวัดติโลกอาราม เพื่อลงพื้นที่  รับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการพัฒนาวัดติโลกอาราม และลงพื้นที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับ ผลการดำเนินงานของมูลนิธิพะเยา เพื่อพัฒนาสภาลมหายใจพะเยา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา ทั้งนี้โครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) มีพื้นที่การดำเนินงาน8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน เชียงราย น่าน พะเยา และแพร่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายได้แก่ ประชาชนในพื้นที่ระดับหมู่บ้าน ตำบล และอำเภอ กลุ่มการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นองค์กรภาคเอกชน และสื่อมวลชน รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ สามารถเป็นเวทีที่ได้เข้ามาร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้และช่วยกันขับเคลื่อนประเทศตั้งแต่ระดับ ฐานราก ชุมชน สังคม และระดับประเทศ ให้พัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างสอดคล้องกันและเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความตระหนักสำนึกรับผิดชอบต่อประเทศชาติและสังคมโดยรวมนำไปสู่สังคมที่ประชาชนมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสังคมที่มีความสงบสุข ประเทศชาติมีความสงบเรียบร้อยมีความสามัคคีปรองดอง และมีการพัฒนาอย่างยั่งยืนในทุกด้าน บนพื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


แชร์ข่าวพะเยา