อดีตวิศวกร กฟผ.สร้างรถยนต์จากเครื่องสูบน้ำ

แชร์ข่าวพะเยา

   “วู๊ดดราก้อน-มังกรไม้” อดีตวิศวกร กฟผ.สร้างรถยนต์จากเครื่องสูบน้ำและใช้ไม้สักทำตัวถัง เอาไว้ เพื่อใช้ในกิจการของฟาร์ม เป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆในช่วงโควิด 19 ระบาด

 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ “ ภูทรัพย์ฟาร์ม “ บ้านเปื๋อยเปียง ม.14 ต.หย่วน อ.เชียงคำ จ.พะเยา หลังจากทราบว่า มีการผลิตรถยนต์จากเครื่องสูบน้ำและใช้ตัวถังที่ทำจากไม้สักทั้งคัน ซึ่งนายภูทรัพย์ ศุภนาถเกรียงไกร อายุ 56 ปี  อดีตวิศกร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นผู้คิดและประกอบชิ้นส่วนต่างๆด้วยตนเองทั้งหมด เพื่อนำมาใช้ในกิจการของฟาร์ม เป็นการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆในช่วงโควิด 19 ระบาด

         นายภูทรัพย์ กล่าวว่า เจ้า “มังกรไม้” “WOOD DRAGON” คันนี้ ตนเองได้คิด ออกแบบ ดัดแปลงและประกอบเครื่องยนต์ ตัวถังและลงมือทำเองทั้งหมด โดยเครื่องยนต์ใช้เครื่องสูบน้ำขนาด 18 แรงม้า เชื้อเพลิงเป็นน้ำมันเบนซิน ส่วนตัวถังรถ ทำมาจากไม้สักทั้งคัน โดยออกแบบให้นั่งโดยสารได้ 4 คน หรือบรรทุกน้ำหนักได้1,000 กิโลกรัม และสามารถวิ่งในทางเรียบด้วยทำความเร็วได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยจึงได้ตนเองจึงได้ล็อคความเร็วไว้สูงสุดไว้ที่ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ใช้เวลาตั้งแต่คิดและลงมือทำเพียง 1 เดือนเท่านั้น โดยใช้งบประมาณในการทำประมาณ 80,000 บาท  ทั้งนี้เจตนาของการสร้างรถยนต์ไม้สักในครั้งนี้ก็เพื่อ ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเข้า-ออกฟาร์มและใช้ขนวัสดุอุปกรณ์ ผลผลิตจากฟาร์มมาเก็บรักษาไว้ที่บ้าน ซึ่งจากการทดลองใช้ภายในฟาร์มพบว่า สามารถลดรายจ่ายเรื่องค่าน้ำมันเข้าฟาร์มไปเยอะพอสมควร  และในอนาคตข้างหน้า ตนเองจะพัฒนาปรับเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน มาเป็นระบบฟ้าฟ้าทั้งหมด โดยยังยึดรูปแบบโครงสร้างของรถไว้เหมือนเดิม ทั้งนี้ ตนพร้อมให้ความรู้เป็นวิทยาทานสำหรับผู้ที่สนใจอยากผลิตรถยนต์ไม้สักแบบนี้ไว้ใช้ในกิจการของตัวเอง ติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 08 7185 6974 ยินดีให้ความรู้ ความกระจ่างด้วยความยินดี

       นายภูทรัพย์  สำเร็จการศึกษาที่คณะวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จากนั้นทำงานเป็นวิศวกร การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ( กฟผ. ) และได้ลาออกมาประกอบธุรกิจส่วนตัวแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพร แบรนด์ภูทรัพย์ฟาร์ม และเมื่อธุรกิจมั่นคงแล้ว จะลงสมัคร สว. เพื่อผลักดันให้มีการใช้รถยนต์ไม้ด้วยพลังงานไฟฟ้าต่อไป


แชร์ข่าวพะเยา