นอภ.เชียงคำสั่งการเจ้าหน้าที่ปกครองลงพื้นที่ให้กำลังใจครอบครัวแรงงานในพื้นที่กว่า 100 ราย ด้านผู้ใหญ่บ้านเผยบางรายยันขอไม่กลับเพราะเกรงว่าหากกลับมาแล้วจะไม่ได้ไปทำงานต่อ
จากสถานการณ์สงครามที่ตึงเครียดภายในประเทศอิสราเอลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นทำให้ในพื้นที่ จ.พะเยาเอง เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องเร่งลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ญาติของแรงงานไทยที่ยังคงอยู่ในพื้นที่สู้รบของประเทศอิสราเอล ทั้งนี้ทางนายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำ ได้สั่งการให้นายรุ่งทวี แก้วคำปา ปลัดฝ่ายความมั่นคงลงพื้นที่ไปยัง ต.ร่มเย็นซึ่งพบว่ามีแรงงานในพื้นที่ที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอลถึง 100 ราย โดยทั้งอำเภอมียอดที่ไปทำงานถึง 132 ราย ทั้งนี้ในการลงพื้นที่ดังกล่าวมรทั้งในส่วนของบ้านร่องสาน ม.8 บ้านประชาภักดี ม.13 ต.ร่มเย็น อ.เชียงคำ จ.พะเยา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แรงงานเหล่านี้ยังขอปักหลักในพื้นที่ทำงานของประเทศอิสราเอลเพราะเกรงว่าหากกลับมาแล้วอาจจะไม่สามารถกลับไปทำงานได้อีก
นายรุ่งทวี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่วันนี้จะเห็นได้ว่าส่วนใหญ่ญาติของแรงงานยังคงมีความวิตกกังวลในเรื่องสงครามภายในประเทศอิสราเอลและความปลอดภัยของผู้ที่ไปทำงานด้วย ทั้งนี้ในพื้นที่ของบ้านร่องส้าน ม.8 ต.ร่มเย็นนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 32 ราย ซึ่งกลับมาบ้านในช่วงก่อนสงครามจำนวน 8 ราย และยังคงเหลือในพื้นที่ประเทศอิสราเอลอีก 24 ราย ซึ่งจากการสอบถามญาติของแรงงานเหล่านี้โดยส่วนใหญ่พบว่าเป็นคนชาติพันธุ์ม้งทั้งสิ้นอีกทั้งบางรายยังคงมีทีท่าว่าอยากกลับมาบ้านเกิดเพราะเวลานี้สถานการณ์ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง โดยญาติของแรงงานบางคนบอกว่ามีทั้งใกล้กับจุดสู่รบไม่ถึง 1 กม.และบางรายอยู่ในพื้นที่สู้รบด้วย ซึ่งตรงนี้ก็ยังไม่มีรายงานว่าเสียชีวิตหรือบาดเจ็บด้วยโดยส่วนใหญ่ญาติของแรงงานเหล่านี้ได้บอกว่ายังสามารถที่จะเอาชีวิตรอดได้ทั้งในเรื่องของการหลบการสู้รบในหลุมหลบภัยและการย้ายถิ่นฐานจากทางเหนือลงมาสู่ภาคกลางของประเทศอิสราเอลด้วย และหลังจากนี้ทางจังหวัดก็ยังมีการเร่งประสานหาข้อมูลถึงแรงงานเหล่านี้ด้วยว่าขณะนี้มีความประสงค์ที่จะกลับบ้านเกิดกี่รายซึ่งจะได้เตรียมแผนรับมือและพากลับบ้านเกิดเป็นลำดับต่อไปด้วยเช่นกันรวมทั้งตอนนี้ตนได้ชี้แจงในเรื่องของสิทธิเบื้องต้นของการช่วยเหลือซึ่งอย่างน้อยจะทำให้ญาติของแรงงานสบายใจขึ้นด้วยเช่นกัน
ด้านนายจาว แซ่ว่าง ผู้ใหญ่บ้านร่องส้าน ม.8 ได้กล่าวเสริมว่า จากการลงพื้นที่สำรวจก่อนหน้าพบว่าญาติพี่น้องหลายคนยังคนมีความวิตกกังวลในเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก ด้วยช่วงก่อนนั้นมีข่าวถึงเรื่องของพี่น้องม้งถูกยิงเสียชีวิตถึง 3 ราย ทำให้ทุกคนที่ทราบข่าวต่างตกใจเป็นอย่างมากด้วย ทั้งนี้ญาติของแรงงานหลายคนไม่ว่าจะเป็นลูกเมียหรือพ่อแม่ยังคงติดต่อกับญาติของตนเองรวมทั้งสามีเป็นระยะ ๆ ด้วย โดยบางรายถึงขั้นวีดีโอคอลคุยกันยังพบเห็นสะเก็ดระเบิดหรือจรวดบินข้ามหัวไปอย่างหน้ากลัว ทั้งนี้ทางฝั่งของญาติพี่น้องเองก็ได้มีการกระทำพิธีขอผีบรรพบุรุษให้ช่วยปกป้องคุ้มครองผู้ที่ไปทำงานให้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัยด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าแรงงานในพื้นที่ของหมู่บ้านของตัวเองบางรายยังไม่ขอกลับบ้านเกิดเพราะว่าต้องการที่จะปลดภาระเรื่องหนี้สินส่วนหนึ่งและอีกส่วนหนึ่งยังเกรงว่าหากกลับมาที่บ้านเกิดแล้วก็อาจจะไม่สามารถกลับไปทำงานที่เดิมได้อีกด้วย
