ชุดสืบสวนเชียงคำแกะรอยหนุ่มขโมยรถมอไซค์หน้าร้านเกมส์ ก่อนสามารถจับกุมมือขโมยได้สำเร็จ ด้าน สว.สส.เชียงคำวอนขอหน่วยงานภาครัฐช่วยกันแก้ไขระบบกล้องวงจรปิดให้ดีขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เชียงคำจ.พะเยา ตามรวบหนุ่มขโมยรถจักรยานยนต์หลังเจ้าของรถคือนายศรายุทธ โนธา อายุ 22 ปีได้เข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.เชียงคำเนื่องจากรถจักยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้าเวฟ 110 I สีน้ำเงินได้หายออกไปตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที โดยตามดูกล้องวงจรปิดหลายแห่งจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายจิรภัทร ยาคำ อายุ 26 ปี ได้เป็นคนขโมยออกไป ล่าสุดวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เชียงคำหลังรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาได้ทราบจากสายข่าวว่าเจอตัวนายจิรภัทรบริเวณหน้าร้านขายดอกไม้แห่งหนึ่งจึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุมตามหมายจับทันที ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนการจับกุมแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้สอบถามผู้ต้องหาว่ารถคันดังกล่าวอยู่ที่ไหนก่อนจะทราบว่าตัวผู้ต้องหาได้นำรถเอาไปไว้ที่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงเดินทางไปตามจนพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ก่อนที่จะนำมามอบให้กับเจ้าของรถตัวจริงภายในเย็นนี้
นายศรายุทธ ได้เล่าว่า วันนั้นตนเองได้ลืมถอดกุยแจรถไว้จริง ๆ เพราะมีธุระออกไปข่างนอกก่อนจะกลับมาเข้ามาภายในร้านเกมส์และไม่ได้เอะใจเรื่องของตนเองแต่อย่างใด หลังจากนั้นตนเองกำลังจะกลับบ้านก็ได้พบว่ารถของตนเองนั้นหายจึงได้รีบเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เชียงคำ ทันทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามรถตัวเองกลับมาอย่างโดยเร็ว และล่าสุดทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามรถของตนเองกลับมาได้ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากและหลังจากนี้ตนเองจะระมัดระวังในเรื่องของการเสียบกุญแจคารถไว้อย่างแน่นอน
ด้านพ.ต.ท.ชายชาญ ไชยมงคล สว.สส.สภ.เชียงคำ ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากการสอบถามผู้ก่อเหตุรายนี้ก็รับสารภาพว่าได้นำรถไปจริง ทั้งนี้เห็นบอกว่าได้นำรถคันดังกล่าวไปแลกกับรถจักรยานยนต์อีกคันเพื่อขับมาหาแฟนในพื้นที่ อ.เชียงคำ แต่ทั้งนี้ตนเองยังไม่ปักใจเชื่อจะขอสอบปากคำโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนการติดตามรถจักรยานยนต์ที่หายไปนั้นตนเองได้มอบหมายให้กับทาง ร.ต.อ.มนัส รัตนวิริยาภรณ์ รอง.สว.สส.สภ.เชียงคำพร้อมกำลังชุดสืบสวนในการติดตามค้นหาจนสามารถนำรถจักรยานยนต์คืนเจ้าของได้ในที่สุด ส่วนผู้ต้องหารายนี้ทางตำรวจได้แจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเคหสถานในเวลากลางคืน”
“อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ อ.เชียงคำครับว่าการที่ทุกท่านนำรถจักรยานยนต์ไปใช้งานและจอดไว้ทุกครั้งขอให้ดึงกุญแจรถออกด้วยเพราะไม่ใช่นั้นอาจจะตกเป็นเหยื่อของทางมิจฉาชีพก็เป็นได้ รวมทั้งผมขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐทั้งเทศบาล หรือ อบต.ช่วยกันบำรุงดูแลแก้ไขกล้องวงจรปิดตามที่ต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเพื่ออย่างน้อยการทำงานของตำรวจจะได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันนี้กล้องวงจรปิดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำคดี” พ.ต.ท.ชายชาญ กล่าวทิ้งท้าย